รองเลขาธิการสหประชาชาติเผยวิตกอย่างยิ่งเรื่องเจ้าหน้าที่ศุลกากรเนปาลจัดส่งความช่วยเหลือล่าช้า จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเนปาลแก้ปัญหานี้โดยเร็ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 2พ.ค.ว่าน.ส.วาเลอรี่อามอส รองเลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ฝ่ายกิจการมนุษยธรรมได้เสร็จสิ้นภารกิจการเยือนประเทศเนปาลซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวรุนแรง7.8แมกนิจูดยังผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า6,700ศพและไร้ที่อยู่อาศัยอีกจำนวนมากนอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวอีกว่าความช่วยเหลือจากต่างประเทศนั้นไปตกค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติกรุงกาฐมาณฑุรวมถึงบริเวณชายแดนด้านที่ติดกับอินเดียซึ่งไม่สามารถผ่านด่านศุลกากรเข้าไปได้โดยกล่าวว่าเธอมีความกังวลอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวว่าการทำงานด้านศุลกากรของเนปาลเป็นไปอย่างล่าช้าและเธอก็มีโอกาสได้นำเรื่องนี้บอกกล่าวกับนายกรัฐมนตรีซูชิลคอยราลา แห่งเนปาลแล้ว
รองเลขาธิการสหประชาชาติฯกล่าวอีกว่าเธอได้ย้ำเตือนให้นายกรัฐมนตรีเนปาลทราบว่าเนปาลได้ลงนามในข้อตกลงกับสหประชาชาติเมื่อปี2550ซึ่งระบุไว้ว่าการตรวจตราด้านศุลกากรต้องดำเนินการอย่างเรียบง่ายและรวดเร็วเพื่อความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์กรณีเกิดพิบัติภัยทางธรรมชาติซึ่งนายกรัฐมนตรีเนปาลก็ได้รับปากแล้วเธอจึงได้แต่หวังว่าจะมีการปรับปรุงด้านระเบียบราชการเรื่องนี้ด้วย
รัฐบาลเนปาลโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการดำเนินการล่าช้าสำหรับความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมประกอบกับการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกลก็ยังมีอุปสรรคจึงทำให้บางจุดยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการเลยแม้เหตุแผ่นดินไหวจะผ่านมา1สัปดาห์แล้ว
นอกจากนั้นสนามบินนานาชาติที่มีอยู่แห่งเดียวของเนปาลก็ยังต้องรับมือกับจำนวนเที่ยวบินที่จัดส่งความช่วยเหลือมาให้นั้นบางลำก็ต้องบินกลับไปเพราะไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับจอดเครื่องบินอย่างไรก็ตาม รองเลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่าเนปาลได้ปรับปรุงเรื่องสนามบินแล้วและสหประชาชาติก็กำลังหาทางที่จะนำความช่วยเหลือเข้าไปให้มากขึ้นโดยให้นำมาจากทางอินเดียแต่ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้คือการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยในชนบทที่ห่างไกลของเนปาลซึ่งเคยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีฐานะยากจนที่สุดในโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น