วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558

จับสาวโหด! มือสังหารแม่ค้าร้านขายของชำชิงรถเก๋ง

จับสาวโหด! มือสังหารแม่ค้าร้านขายของชำชิงรถเก๋ง - คุมตัวไปทำแผนฯ ชาวบ้านรุมสาปแช่ง



คดีคนร้ายสังหารโหดฆ่าทุบหัว น.ส.อภิชญา หรือป้าแดง นพมาศ อายุ 60 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ในหมู่ 4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสียชีวิตอยู่บริเวณเตียงนอนภายในร้าน แล้วชิงทรัพย์สินและรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีแดง ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไป กระทั่งมีชาวบ้านไปพบเป็นศพขึ้นอืดเมื่อกลางดึกของวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง โดยการนำของ พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวล่าตัวคนร้าย จนสามารถติดตามจับกุม น.ส.ฤทัยรัตน์ หรือกี้ ผมอุด อายุ 28 ปี ชาว จ.อุดรธานี กับ นายวีรยุทธ หรือตุ้ม จงหาญ อายุ 28 ปี ชาว จ.ขอนแก่น 2 ผู้ต้องหาในคดีนี้ พร้อมของกลางรถเก๋ง ส่วน น.ส.สุภาพร หรือจอย สีทา อายุ 31 ปี แฟนสาวของนายวีรยุทธ และเป็นคนลงมือสังหาร น.ส.อภิชญา ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนีตามที่รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 เม.ษ.58 พ.ต.อ.ชัชชพล ภัทรศิริพร พงส.ผทค. พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวน ได้คุมตัว น.ส.สุภาพร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ หลังติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดใน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น เมื่อกลางดึกวันเดียวกัน ท่ามกลางชาวบ้านนับร้อยคนต่างพากันแห่มาดูโฉมหน้าฆาตกร พร้อมกับตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น บางคนถึงกับคุมอารมณ์ไม่อยู่วิ่งกรูจะมาทำร้าย น.ส.สุภาพร จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครต้องช่วยกันกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนนำตัวไปทำแผนฯตามขั้นตอนโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ

จากการสอบปากคำ น.ส.สุภาพร ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตั้งใจจะพากันไปขโมยทรัพย์สินภายในร้านเท่านั้น แต่บังเอิญ น.ส.อภิชญา หรือป้าแดง เจ้าของร้าน ตื่นขึ้นมาเห็นเหตุการณ์ และคว้าเอาค้อนตอกตะปูจะมาทำร้าย ตนจึงต่อสู้และแย่งค้อนมาได้ก่อนทุบเข้าที่ศีรษะจนสลบล้มลงบนเตียง จากนั้นจึงนำผ้าห่มมาปิดใบหน้าแล้วใช้ค้อนทุบซ้ำอีกหลายครั้ง จนแน่ใจว่าเหยื่อเสียชีวิตแล้ว เลยพากันหยิบฉวยทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง พร้อมกับขับรถเก๋งของผู้เสียชีวิตไปจำนำกับคนรู้จักก่อนพากันแยกย้ายหลบหนี จนมาถูกตำรวจจับกุมตัว และขอยืนยันว่าตนเป็นคนลงมือฆ่าคนเดียว ส่วน น.ส.ฤทัยรัตน์ หรือกี้ กับ นายวีรยุทธ หรือตุ้ม คอยดูต้นทางอยู่นอกร้าน

ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นจึงแจ้ง 2 ข้อหาหนักคือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ร่วมฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาหรือร่วมกันรับของโจร ก่อนคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  khaosod



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น