วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หม้อแปลงในโรงงานย่านบางใหญ่ระเบิด ดับ 1 เจ็บอีกเพียบ

มีรายงานเหตุหม้อแปลงขนาดใหญ่ของโรงงานย่านบางใหญ่ระเบิด เบื้องต้นเจ็บนับสิบ เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย 
วันนี้ (4พ.ค. ) เวลา 09.30 มีรายงานว่า เกิดเหตุหม้อแปลงขนาดใหญ่ภายในโรงงาน KMLเทคโนโลยี ย่านบางใหญ่ ได้ระเบิด โดยแรงระเบิดทำให้อาคาร 2 หลังไฟไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลาต่อมา






เบื้องต้นมีรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับสิบคน และเสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าทีอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ


นายกฯสั่งเข้มด่านแอลกอลฮอล์ หลังเก๋งซิ่งเสยนักปั่นดับ 3 ศพ ที่เชียงใหม่

นายกฯสั่งเข้มด่านแอลกอลฮอล์ หลังเก๋งซิ่งเสยนักปั่นดับ 3 ศพที่เชียงใหม่ 

พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  จากเหตุการณ์เมาแล้วขับจนทำให้ชนขบวนนักปั่นจักรยานเสียชีวิต 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ จ.เชียงใหม่
ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวดขันเรื่องการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้สม่ำเสมอ และหากพบผู้กระทำผิดต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง




ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมเรียกร้องให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีน้ำใจและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ยานพาหนะ

แรง! เพจดัง ฉะ หมอปลายทายสึนามิมั่ว เคยรับผิดชอบมั้ย?

แรง! เพจดัง ฉะ หมอปลายทายสึนามิมั่ว เคยรับผิดชอบมั้ย?

จากกรณีที่ หมอปลาย ณวรชา พินิจโภคากร นักทำนายชื่อดังที่ออกมามาตอบกลับชาวเน็ตกรณีที่ขุดคุ้ยคำทายสึนามิไม่แม่นมาแชร์อีกครั้ง โดยหมอปลายอ้างว่าการทำนายดังกล่าวเป็นการเตือนภัยไม่ให้ประมาท
ล่าสุดเรื่องราวยังไม่จบและกลายเป็นประเด็นร้อนแรงมากยิ่งขึ้น  เมื่อแฟนเพจดังอย่าง Drama-addict ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างถึงพริกถึงขิงว่าการกระทำดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวในภาคใต้หายหมด ชาวบ้านแตกตื่น พอคำทำนายไม่เป็นจริงไม่เห็นออกมารับผิดชอบและอ้างว่าที่สึนามิเลื่อนเพราะคำทำนายของตัวเอง




“…มุขเด็ดของพวกหมอดูหมอเดา พอคำทำนายมหันตภัยไม่แม่นก็อ้างว่า เพราะตัวเองพยากรณ์เอาไว้ทำให้คนระวังตัวมหันตภัยจึงถูกเลื่อนเวลาออกไป มีอ้างว่าเตือนไว้คนจะได้ระวังเพราะประเทศนี้เคยเกิดสึนามิมาแล้ว ประเทศอื่นที่เคยเกิดสึนามิเขาก็ระวังเหมือนกันนะ ทำไมมีคนเตือนถึงไม่เชื่อทำไมถึงลบหลู่  เธอเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รึไง…”



อยากให้เจ้าหน้าที่มาจัดการกับพวกพยากรณ์หากินกับความกลัวของคนอย่างหมอปลายได้แล้ว และแนะนำว่าประเทศไทยมีศูนย์เตือนภัยพิบัติสึนามิแล้วไม่จำเป็นที่หมอดูจะต้องมาทำนายสึนามิอะไรแบบนี้ สร้างความตระหนกให้กับประชาชนเปล่าๆ พร้อมกับยกตัวอย่างชาวบ้านในฟิลิปินส์ตกใจข่าวลือสึนามิจนหัวใจวายระหว่างวิ่งหนีสึนามิ ซึ่งสุดท้ายเป็นเพราะข่าวลือที่ไม่เคยมีการออกมารับผิดชอบเลย

ที่มา Drama-addict

MThai news

อิสราเอล เดือด ผู้ประท้วงผิวสี ปะทะตร. ต้านเหยียดผิว

เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอล เข้าสลายการชุมนุม ผู้ประท้วงชาวยิวเชื้อสายเอธิโอเปีย หลังพยายามบุกยึดสถานที่ราชการสำคัญในเมืองเทลอาวีฟ
วันนี้ (5 พ.ค.) สำนักข่าว ‘บีบีซี’ รายงานข่าวนายยิตซ์ฮัค อาฮาโรโนวิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอิสราเอล แถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อประณามการเดินขบวนประท้วงของประชาชนชาติพันธุ์เอธิโอเปีย ซึ่งเป็นกลุ่มคนผิวสี ในย่านใจกลางกรุงเทลอาวีฟ ถือให้การรวมตัวครั้งเป็น เป็นเหตุจราจล ในเมืองเทลอาวีฟ ประเทศ อิสราเอล

สาเหตุเนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ประท้วงนับพันราย ออกมาลุกฮือ ต่อต้านการเหยียดสีผิว ด้วยการบุกยึดอาคารในเขตเทศบาลเมือง พร้อมทั้งขว้างปาสิ่งของ ทำลายร้านค้าและสถานที่ราชการ หลังจากถูกห้าม ไม่ให้เข้าไปภายในสำนักงานเทศบาลกรุงเทลอาวีฟ ทางการจึงส่งตำรวจปราบจลาจลเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยเจ้าหน้าที่ใช้ระเบิดควันและระเบิดเสียงเป็นอาวุธหลัก ร่วมกับรถฉีดน้ำแรงดันสูงและการยิงแก๊สน้ำตาเป็นระยะ พร้อมรวบตัวผู้ประท้วงรวม 26 ราย

ชนวนเหตุของการลุกฮือในครั้งนี้ ปะทุขึ้นหลังจาก คลิปตำรวจในครื่องแบบ 2 นายรุมทำร้ายทหารอิสราเอลเชื้อสายเอธิโอเปียนอกเครื่องแบบถูกเผยแพร่ จุดประกายความไม่พอใจในสังคมเกี่ยวกับปัญหาการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและศาสนา รวมถึงการกระทำที่เกินกว่าเหตุ

อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจกรุงเทลอาวีฟ ออกแถลงการณ์ยืนยันเรื่องการติดตามตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย แต่เตือนเรื่องการชุมนุมเพื่อก่อความวุ่นวายในชุมชนถือเป็นพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายเช่นกัน




ปัจจุบันอิสราเอลมีพลเมืองเชื้อสายเอธิโอเปียมากกว่า 135,000 คน โดยอพยพเข้ามา 2 ครั้ง ในช่วงปี 2527 และ 2534 ทั้งนี้ความแตกต่างทางสังคม ที่ชาวเอธิโอเปียในประเทศ ที่มีรายได้ต่ำ และถูกตีตราเป็นเหมือนพลเมืองชั้นสอง จึงไม่ได้รับการศึกษาที่ทัดเทียมกับพลเมืองทั่วไป ทั้งยังเป็นที่มาของปัญหา อาชญากรรม และจบลงที่การถูกคุมขังในเรือนจำในที่สุด

ซึ่งครั้งนี้ ไม่ใช่เหตุการณ์แรก ที่ชาวยิวเชื่อสายเอธิโอเปีย ออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจาก เมื่อปี 2556 มีเหตุประท้วงในหัวข้อความขัดแย้ง หลังจากเจ้าของบ้านชาวอิสราเอล ปฏิเสธปล่อยที่พัก ให้กลุ่มคนผิวสีเช่า



MThai News

ที่มา BBC

ค้นคอนโดหรูย่านสุขุมวิทเครือข่าย ‘ยูฟัน’ มูลค่า70ล้าน

ตำรวจนำกำลัง บุกค้นคอนโดหรูย่านสุขุมวิท มูลค่า 70 ล้าน หลังพบเป็นของผู้ต้องหารายสำคัญเครือข่าย ยูฟัน ที่ยังหลบหนีเช่าซื้อไว้  ก่อนเตรียมขยายผลยึดทรัพย์ส่งปปง.

วันนี้(3 พ.ค.) พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. นำหมายศาลเข้าตรวจค้น คอนโดแอดรูม (@ ROOM) ภายในซอยสุขุมวิท 66/1 ที่ นายอาทิตย์ ปานแก้ว หรือ นายจางเจี้ยน ชาวจีน ผู้บริหารในบริษัทยูฟันพร็อบเพอร์ตี้ บริษัทในเครือ ยูฟัน สโตร์ จำกัด ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีได้ซื้อไว้

จากการตรวจสอบพบว่าคคอนโดดังกล่าวสูง 5 ชั้น มีห้องพักทั้ง 46 ห้อง ไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ ด้านนายสุวิวัฒน์ สุวรรณ์ ผู้ดูแลคอนโดมิเนียม ระบุว่า นายอาทิตย์ ได้ติดต่อซื้อคอนโดดังกล่าวตั้งแต่ 6 เดือนก่อน และทราบว่ามีการจ่ายเงินงวดแรกแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือมีการตกลงผ่อนชำระเป็นงวด ขณะที่ผ่านมาพบผู้ต้องหาบางคน อาทิ นายไชธร ทองหล่อเลิศ ผู้ต้องหาที่ถูกจับแล้ว และหัวหน้าสายงานของบริษัทยูฟัน ผลัดกันเข้ามาพัก โดยจากการสอบถามทราบว่าที่สามารถเข้าพักได้ เพราะทำยอดได้ตามเป้าหมาย




ด้านพล.ต.ท.สุวิระเปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่าบริษัทยูฟันฯ มาซื้อคอนโดในราคา 70 ล้านบาท และจ่ายเงินแล้ว 35 ล้านบาท และที่ผ่านมามีพนักงานของบริษัทยูฟัน เข้ามาพักอาศัย ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ และจะอายัดคอนโดดังกล่าวส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ตรวจสอบ พร้อมฝากเตือนผู้ที่รับฝากเงินหรือทรัพย์สิน จากผู้ต้องหาจะมีความผิดฐานฟอกเงิน ขณะนี้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว อยู่ระหว่างสรุปสำนวนส่งอัยการ เพื่อมีความเห็นสั่งฟ้องภายในเดือนพ.ค.นี้ จึงขอให้ผู้เสียหายรีบเข้าแจ้งความ

ส่วนที่สังคมออนไลน์มีการระบุว่า ตำรวจจะได้รับส่วนแบ่งจากทรัพย์ที่อายัดได้ ร้อยละ 25นั้น พล.ต.ท.สุวิระ ยืนยันว่าตำรวจไม่มีส่วนได้เงินแม้แต่บาทเดียว ซึ่งขณะนี้ตำรวจอายัดทรัพย์ได้แล้วกว่า 800 ล้านบาท และยืนยันว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มีสิทธิทราบชื่อผู้เสียหาย ตามที่มีผู้กล่าวอ้าง และตำรวจจะเดินหน้าอายัดทรัพย์สินต่อไป นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจากกระทรวงกลาโหมว่า พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นป่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนี ปลดเกษียณในตำแหน่งพันเอก และได้เลื่อน 1 ชั้นยศ คือ พลตรี เท่านั้น

สำหรับคดีนี้ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 13 คน จับกุมแล้ว 5 คน มอบตัว 2 คน ส่วนที่เหลือหลบหนีออกต่างประเทศ



ภาพจาก สำนักข่าวไทย

ระวัง! “ดีเอสไอ”เตือน “อีเมลไวรัส”ตัวใหม่ระบาด

ดีเอสไอ เตือน อีเมลไวรัสคอมฯ ตัวใหม่ระบาดหนัก หากเปิด-ติดตั้ง เปรียบเสมือนถูกเรียกค่าไถ ต้องจ่ายค่าปลดล็อก 20,000 บาท

วันที่ 3 พ.ค.58 สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีหนังสือแจ้งเตือนแก่เจ้าหน้าที่ภายในดีเอสไอเรื่องการเปิดอ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 29 เม.ย. 58 ซึ่งจะทำให้ติดไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ โดยไวรัสชนิดนี้จะส่งผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล)




ซึ่งหากกดเปิดอีเมล์ดังกล่าว ไวรัสจะเข้าไปในระบบ และไม่สามารถเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และค้นหาไฟล์ต่างๆ ได้ ทั้งนี้คอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสดังกล่าวจะเหมือนถูกเรียกค่าไถ โดยต้องจ่ายเงินกว่า 20,000 บาท เพื่อรับรหัสสำหรับการถอดข้อมูล

โดยอีเมล์ไวรัสดังกล่าวจะมีลักษณะพฤติกรรมคือ จะส่งอีเมลให้กับเป้าหมายพร้อมแนบไฟล์ Attachment โดยไฟล์ที่แนบจะเป็นไฟล์นามสกุล เช่น .pdf, .xls, .ppt, .txt, .py, .wb2, .jpg, .odb, .dbf, .md, .js, .pl, และ .doc เป็นต้น

ซึ่งหัวข้อการส่งอีเมล์จะมีคำว่า account หรือ suspended หรือ locked ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีความเกี่ยวข้องด้านการเงิน การสั่งซื้อสินค้า หรือบัญชีธนาคาร พร้อมระบุเนื้อหาของอีเมล์ว่าขอให้เปิดไฟล์ที่แนบไปอีเมล์ ซึ่งหากเปิดไฟล์จะทำให้ติดมัลแวร์หรือไวรัสทันที

ขอบคุณข้อมูล dailynews

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Nepal quake: Airport customs holding up aid relief - UN

The United Nations has urged Nepal to relax customs controls which it says are holding up deliveries of aid to survivors of last week's earthquake.
UN humanitarian chief Valerie Amos said Nepal had a duty to provide faster customs clearance for relief supplies.
Many people are yet to receive the aid, which is piling up at Kathmandu airport, a week after the 7.8-magnitude earthquake on 25 April.
More than 7,000 have died. Authorities have ruled out finding more survivors.







'Administrative issues'
On Saturday, Baroness Amos said she had reminded Prime Minister Sushil Koirala that Nepal had signed an agreement with the UN in 2007 for simpler and faster customs clearance for relief aid in a disaster.
"He has undertaken to ensure that happens, so I hope that from now we will see an improvement in those administrative issues," she told AFP news agency.
The UN representative in the country, Jamie McGoldrick, said the Nepalese government "should not be using peacetime customs methodology"

Nepal lifted import taxes on tarpaulins and tents on Friday but home ministry spokesman Laxmi Prasad Dhakal said all goods arriving from abroad had to be inspected.
"This is something we need to do," he said.
Rameshwor Dangal, of Nepal's National Disaster Management Division, said many people were waiting to receive emergency supplies or be airlifted to safety.
"In many areas people are not getting relief and it is natural that they are unhappy about it," he told AFP.

At least 7,040 people are now known to have been killed in the quake which struck near Kathmandu, Nepalese officials say. More than 14,021 people were injured.
Landslides and poor weather have hampered efforts to deliver aid to isolated districts, and there are only about 20 helicopters available for the rescue and relief operations.
In the Sindhupalchok district, which lies north of Kathmandu, north of the capital, 95% of the houses were destroyed, chief district officer Himnath Dawadi told the BBC Nepali.
Nepal has criticised both the speed of foreign aid deliveries the type of products countries are sending.
Finance Minister Ram Sharan Mahat said: "We have received things like tuna fish and mayonnaise. What good are those things for us? We need grains, salt and sugar."

Boko Haram: 300 girls and women taken to safety

A group of nearly 300 women and girls, which the Nigerian army says were freed from Boko Haram militants earlier this week have been taken to a refugee camp in north-eastern Nigeria.
They had travelled for three days from the vast Sambisa forest where they were rescued, according to the army.




The group arrived in trucks and jeeps at a school converted into the camp in the city of Yola.
Earlier, the military said another 234 women and children had been rescued.
It said that operation took place on Thursday in the forest, a militant hideout.
Reports suggest nearly 700 women have been rescued from Boko Haram over the past week as the army continues its operation against militant strongholds.
Identity screening

But it is still not clear if any of the more than 200 girls abducted from a school in Chibok in April 2014 were among those freed.
The case caused international outrage and triggered a major campaign to get the Nigerian government to work for their release.
The military said the freed hostages were being screened to establish their identities.

Some analysts are sceptical of the army's claims - querying the the use of the term "rescue", says BBC Africa Editor Richard Hamilton.
They say the women were probably picked up by the military after the militants had fled.
While the army says the latest group freed were Boko Haram captives, a local senator says the women and children previously released may have been residents of the area.
The military earlier said it had destroyed 13 camps belonging to the Islamist insurgents in the Sambisa forest, which surrounds a reserve in Borno.
Thousands have been killed in northern Nigeria since Boko Haram began its insurgency in 2009 to create an Islamic state.
In February, Nigeria's military, backed by troops from neighbouring countries, launched a major offensive against the Islamist fighters, recapturing Boko Haram territory taken in the previous year.

wide unanimous decision in Las Vegas.

American Mayweather, 38, delivered a defensive masterclass against his Philippine rival, making the necessary adjustments after only a few rounds before disappearing out of sight.
Mayweather, who added the WBO welterweight title to the WBC and WBA titles he already owned, was awarded the fight 118-110, 116-112 and 116-112 by the three judges.
With his victory, Mayweather also cemented his status as the greatest pound-for-pound boxer of his generation.





The five-weight world champion is now undefeated in 48 professional fights, stretching back 19 years.
Six-weight world champion Pacquiao, 36, falls to 57 wins, six losses and two draws.
Tickets for the bout - billed as 'The Fight of the Century' - changed hands for as much as $350,000 (£232,000) and American fans were charged almost $100 (£66) to watch on television.

Floyd Mayweather emerged victorious from the most

Floyd Mayweather emerged victorious from the most lucrative fight in history, beating Manny Pacquiao via a wide unanimous decision in Las Vegas.
American Mayweather, 38, delivered a defensive masterclass against his Philippine rival, making the necessary adjustments after only a few rounds before disappearing out of sight.
Mayweather, who added the WBO welterweight title to the WBC and WBA titles he already owned, was awarded the fight 118-110, 116-112 and 116-112 by the three judges.
With his victory, Mayweather also cemented his status as the greatest pound-for-pound boxer of his generation.






The five-weight world champion is now undefeated in 48 professional fights, stretching back 19 years.
Six-weight world champion Pacquiao, 36, falls to 57 wins, six losses and two draws.
Tickets for the bout - billed as 'The Fight of the Century' - changed hands for as much as $350,000 (£232,000) and American fans were charged almost $100 (£66) to watch on television.

Rival broadcasters Showtime and HBO joined forces for the first time since Lennox Lewis fought Mike Tyson in 2002 to show the fight, with Jimmy Lennon Jr and Michael Buffer sharing ring announcer duties.
A-listers in the 16,507 crowd included actors Clint Eastwood and Robert De Niro, singers Sting and Prince, and US tycoon Donald Trump.
Multi Grammy Award winner Jamie Foxx sang the American national anthem prior to the fighters entering the ring. So prized was a seat that many celebrities were even sat behind the press row.
Pacquiao began his ring walk at 20:45 Vegas time - to the strains of a song he recorded especially for the occasion - and was awarded a rapturous reception. Mayweather, on the other hand, was roundly booed, despite being effectively the house fighter.
The opening round was extremely cagey, with both men trying to establish their distance, but Mayweather did land with a couple of eye-catching right hands on the counter.
Not only did Mayweather look noticeably bigger than Pacquiao, he also looked quicker in the early rounds.
And when Pacquiao did get close, Mayweather was content to tie him up, to both Pacquiao and the fans' frustration.
Mayweather rocked Pacquiao with two more rights in the second, although Pacquiao was able to get inside his rival's superior reach and unleash a couple of flurries.
The third round was a more even affair, with Pacquiao able to draw Mayweather into some exchanges and Mayweather doing plenty of rough stuff on the inside.
Pacquiao really came into the fight in the fourth, staggering Mayweather with a left hand, which many thought would be a key weapon in this fight.

Mayweather was forced to cover up on the ropes and many of Pacquiao's follow-up punches were caught on the arms and gloves, but a smile from the American signalled he may have been hurt.
Mayweather's head had cleared by the start of the fifth and he proceeded to win the round courtesy of his trusty right cross, with Pacquiao not applying enough pressure or displaying the aggression many felt he needed.
Pacquiao rocked Mayweather again in the sixth, before Mayweather got on his bike in the seventh, slipping and sliding out of reach and frustrating Pacquiao as he looked to engage.
In the eighth it was Mayweather's left that did most of the damage and although he did ship another sneaky left, by now it was apparent that Pacquiao, naturally the smaller man, did not have the necessary power.
It was more of the same in the ninth, during which there were definite signs that Pacquiao was tiring and the fight was beginning to get away from him.
By the 10th, Mayweather had made all the adjustments he needed to make and continually made Pacquiao miss, like a matador with an ailing bull, while doing enough on the counter to win the round.
In the 11th, Pacquiao had gone from bull to mouse, getting snapped on the nose time and time again by Mayweather's jab as he tried to get inside.

Pacquiao's expected late rally did not transpire and the air of resignation in the arena at the final bell told you everything you needed to know - that Mayweather had won an intriguing rather than thrilling fight with plenty to spare.
And while many observers who paid to watch would have been disappointed with the action, the fact that Mayweather won so handily was more proof of his unparalleled genius.
Pacquiao's pride will no doubt be salved when he next checks his bank account - it is estimated the fight will generate $400m (£265m) in total, with Mayweather and Pacquiao set to split in the region of $230m (£150m).
Afterwards Mayweather confirmed he would fight one more time in September before retiring, although the opportunity to surpass Rocky Marciano's mark of 49 fights undefeated might prove too tempting to pass up.
Amir Khan is on the list of possible opponents, as is fellow Briton and IBF welterweight champion Kell Brook.


Cheryl Fernandez-Versini leads celebrity tributes to Will and Kate after royal baby birth

HOARDS of celebrities took to Twitter in celebration today after the Duke and Duchess of Cambridge welcomed their second child.
Leading the tributes to the new princess was singer Cheryl Fernandez-Versini.

The 31-year-old wrote: "Congratulations William and Kate. So excited to see our new little princess!! #itsagirl."



This Morning star Eamonn Holmes also sent his well wishes. 

"It's a Girl ! One of each now for The Happy Couple," he wrote.

'We're very happy' Beaming William returns to Kate's beside with waving Prince George

PRINCE George waved to the crowds this afternoon as he arrived at his mother's bedside in the arms of his beaming dad to meet his new sister for the first time.
The adorable prince, wearing a blue jumper like his dad, looked to be in his element as he waved to the crowd from William's arms on the steps of the hospital as the jubilant crowd outside cheered him on. 









The pair got out of a black Range Rover which pulled up outside the hospital to bring them to Kate's bedside, with the adventurous George walking the first few steps before being scooped up in his dad's arms. 

The Duchess of Cambridge today gave birth to a little girl weighing 8lbs 3oz.

Prince William earlier revealed he was "very happy" as he made a quick dash to the royal residence to pick up his son.

Crowds of well-wishers whooped and cheered as the elated prince left St Mary's Hospital in Paddington less than seven hours after Kate gave birth to their baby daughter.
Two uniformed police officers stood attentively outside the Lindo Wing as William waved to the crowd which has gathered in jubilation outside the hospital. 

The Prince's exit was slightly delayed, thought be due to the fact that he stopped briefly on his way out to chat to members of the medical team who helped out with the birth of his daughter to thank them for their efforts.

Asked how the day had gone, the Prince grinned and replied "very well".


ยูเอ็นกังวลศุลกากรเนปาลล่าช้า

รองเลขาธิการสหประชาชาติเผยวิตกอย่างยิ่งเรื่องเจ้าหน้าที่ศุลกากรเนปาลจัดส่งความช่วยเหลือล่าช้า จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเนปาลแก้ปัญหานี้โดยเร็ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 2พ.ค.ว่าน.ส.วาเลอรี่อามอส รองเลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ฝ่ายกิจการมนุษยธรรมได้เสร็จสิ้นภารกิจการเยือนประเทศเนปาลซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวรุนแรง7.8แมกนิจูดยังผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า6,700ศพและไร้ที่อยู่อาศัยอีกจำนวนมากนอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวอีกว่าความช่วยเหลือจากต่างประเทศนั้นไปตกค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติกรุงกาฐมาณฑุรวมถึงบริเวณชายแดนด้านที่ติดกับอินเดียซึ่งไม่สามารถผ่านด่านศุลกากรเข้าไปได้โดยกล่าวว่าเธอมีความกังวลอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวว่าการทำงานด้านศุลกากรของเนปาลเป็นไปอย่างล่าช้าและเธอก็มีโอกาสได้นำเรื่องนี้บอกกล่าวกับนายกรัฐมนตรีซูชิลคอยราลา แห่งเนปาลแล้ว




รองเลขาธิการสหประชาชาติฯกล่าวอีกว่าเธอได้ย้ำเตือนให้นายกรัฐมนตรีเนปาลทราบว่าเนปาลได้ลงนามในข้อตกลงกับสหประชาชาติเมื่อปี2550ซึ่งระบุไว้ว่าการตรวจตราด้านศุลกากรต้องดำเนินการอย่างเรียบง่ายและรวดเร็วเพื่อความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์กรณีเกิดพิบัติภัยทางธรรมชาติซึ่งนายกรัฐมนตรีเนปาลก็ได้รับปากแล้วเธอจึงได้แต่หวังว่าจะมีการปรับปรุงด้านระเบียบราชการเรื่องนี้ด้วย

รัฐบาลเนปาลโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการดำเนินการล่าช้าสำหรับความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมประกอบกับการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกลก็ยังมีอุปสรรคจึงทำให้บางจุดยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการเลยแม้เหตุแผ่นดินไหวจะผ่านมา1สัปดาห์แล้ว

นอกจากนั้นสนามบินนานาชาติที่มีอยู่แห่งเดียวของเนปาลก็ยังต้องรับมือกับจำนวนเที่ยวบินที่จัดส่งความช่วยเหลือมาให้นั้นบางลำก็ต้องบินกลับไปเพราะไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับจอดเครื่องบินอย่างไรก็ตาม รองเลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่าเนปาลได้ปรับปรุงเรื่องสนามบินแล้วและสหประชาชาติก็กำลังหาทางที่จะนำความช่วยเหลือเข้าไปให้มากขึ้นโดยให้นำมาจากทางอินเดียแต่ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้คือการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยในชนบทที่ห่างไกลของเนปาลซึ่งเคยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีฐานะยากจนที่สุดในโลก

"โซนี" ทารกผู้สร้างความหวังให้ชาวเนปาล

แผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 แมกนิจูดในเนปาล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,600 ศพ แต่ท่ามกลางความสูญเสียครั้งใหญ่ ยังคงมีแสงสว่างแห่งความหวัง ที่เริ่มต้นจากการรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ของ "โซนี" ทารกวัย 4 เดือน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่าราสมิลา อาวาล วัย 35 ปี กำลังเดินออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 25 เม.ย. อย่างไรก็ตาม แผ่นดินสั่นไหวอย่างรุนแรงเพียงไม่กี่นาทีหลังเธอก้าวออกจากบ้าน สิ่งปลูกสร้างแทบทั้งหมดพังทลายลงมาอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาเธอและประชาชนอีกจำนวนมากในบริเวณนั้น ก้อนอิฐ แท่งปูน และท่อนไม้จำนวนมากร่วงลงมาฝังผู้ที่อยู่ในอาคารทั้งเป็น ซึ่งรวมถึงบุตรของเธอทั้งสองคน โซนียา บุตรสาววัย 10 ขวบ และโซนี บุตรชายวัย 4 เดือน




ราสมิลากล่าวว่าเธอตกใจมากและวิ่งไปทั่วเพื่อขอความช่วยเหลือ ในเวลานั้นเธอยอมรับว่าเผื่อใจเอาไว้แล้วเหมือนกัน ว่าเธออาจไม่ได้พบหน้าบุตรทั้งสองคนอีก ขณะที่สามีของเธอ คือชาม อาวาล วัย 35 ปี ซึ่งประกอบอาชีพขับรถรับจ้าง รีบกลับมาที่บ้านทันทีหลังเกิดแผ่นดินไหวเพื่อช่วยตามหาบุตรสาวและบุตรชาย ด้านเพื่อนบ้านซึ่งทราบข่าวพากันมาช่วยค้นหาเช่นกัน ก่อนที่ในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา ทุกคนพบร่างของโซนียา และช่วยกันอุ้มเธอออกมาจากซากปรักหักพัง

สามีภรรยาอาวาลกล่าวว่าดีใจมาก เมื่อพบว่าบุตรสาวคนโตยังมีชีวิตอยู่ แม้อยู่ในสภาพหมดสติ แต่บุตรชายคนเล็กซึ่งเป็นทารกยังคงสูญหาย แม้ทหารจำนวนมากกระจายกำลังกันค้นหาจนถึงช่วงเวลากลางคืน ทุกคนยังไม่พบสัญญาณบ่งบอกการมีชีวิตของหนูน้อย จนกระทั่งมีเสียงทารกร้องเล็ดรอดออกมาจากภายใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งราสมิลากล่าวว่าคือ "เสียงจากสวรรค์" สร้างความเชื่อมั่นให้เธอและสามี ว่าโซนียังคงมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความที่เป็นเวลากลางคืนและแสงไฟไม่เพียงพอ ทุกคนจึงต้องรอจนถึงรุ่งเช้าของอีกวันเพื่อช่วยกันค้นหาอีกครั้ง และในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็พบร่างของโซนี

ใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นของหนูน้อยในอ้อมอกของทหารเนปาลได้รับการเผยแพร่ออกไปทั่วโลก ขณะที่คณะแพทย์กล่าวว่า โซนีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่หน้าผากและขาเนื่องจากถูกก้อนอิฐบาด แต่สภาพร่างกายโดยรวมของหนูน้อยถือว่ายังแข็งแรงดีมาก แม้ขาดอาหารมานานถึง 1 วัน จึงอนุญาตให้โซนีกลับไปอยู่กับครอบครัวหลังเข้ารับการทำแผลและตรวจร่างกาย สามีภรรยาอาวาลกล่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวหมดสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งที่จะไม่มีวันสูญเสียอีกคือ "ความหวัง"

เจ้าหญิงแคทเธอรีน ทรงประสูติกาล “พระธิดา”

เจ้าหญิงแคทเธอรีน ทรงประสูติกาล ทายาทองค์ที่ 2 เป็นพระธิดา อย่างปลอดภัยแล้วในเวลา 08.34 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทั้ง 2 พระองค์ทรงมีสุขภาพแข็งแรง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ว่า สำนักพระราชวังเคนซิงตัน ประกาศวันนี้ว่า เจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงมีประสูติกาลทายาทองค์ที่ 2 เป็นพระธิดา อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 08.34 ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 14.34 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งทายาทพระองค์ใหม่นี้ จะมีสถานะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 4 ของราชวงศ์อังกฤษ






ทั้งนี้ ดัชเชสถูกส่งตัวเข้าอาคารลินโด วิง ที่โรงพยาบาลเซนต์ แมร์รี ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เจ้าชายจอร์จ พระโอรสองค์แรก ประสูติในเดือนก.ค.2556 แถลงการณ์ของทางราชวังระบุด้วยว่า ทั้งเจ้าหญิงแคทเธอรีน และพระธิดา ทรงมีสุขภาพแข็งแรง

ดัชเชสเสด็จออกจากพระราชวังพร้อมกับเจ้าชายวิลเลียม พระสวามี ไปยังโรงพยาบาลเมื่อเวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 12.00 น.ของวันนี้ตามเวลาในไทย

พระธิดาองค์ใหม่จะเป็รัฐทายาทลำดับที่ 4 ต่อจากเจ้าฟ้าชายชาลร์ส มกุฏราชกุมาร ผู้เป็นอัยกา, เจ้าชายวิลเลียม พระบิดา และเจ้าชายจอร์จ พระเชษฐา

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เจ้าฟ้าชายชาลร์ส ตรัสว่า พระองค์ทรงหวังว่า ดัชเชสจะมีประสูติกาลเป็นพระธิดา

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558

โวยเกาะท่องเที่ยว-ขยะลอยเกลื่อน รีสอร์ต

โวยเกาะท่องเที่ยว-ขยะลอยเกลื่อน รีสอร์ตแอบทิ้ง "สิมิลัน"ผวาเละ จี้คุมจำนวนคน

ผวา "เกาะสิมิลัน-เกาะตาชัย" เละ จี้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เผยช่วงหยุดยาวต้องรับมากถึงวันละเกือบ 5 พันคน แถมยังก่อสร้างอาคาร-ร้านอาหาร หวั่นกระทบระบบนิเวศ-สิ่งแวดล้อม ส่วนที่เกาะไหงโวยรีสอร์ต แอบนำขยะทิ้งกลางทะเล นักท่องเที่ยวมาเจอถึงผงะขยะลอยเกลื่อน ต้องช่วยกันเก็บวุ่น โดยเฉพาะบริเวณจุดดำน้ำดูปะการัง หวั่นกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการ 



เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ถึงความไม่เหมาะสมของผู้ประกอบการรีสอร์ต บางรายบนเกาะไหง บริเวณเขตรอยต่อ ระหว่างจ.ตรัง และกระบี่ เนื่องจากนำขยะจากบนเกาะมาทิ้งไว้กลางทะเล บริเวณจุดดำน้ำของเกาะไหง ซึ่งเป็นภาพที่ไม่สวยงามและยังกระทบกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ ที่สำคัญยังเป็นผลลบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้วย ทำให้ไกด์ชาวไทยที่พานักท่องเที่ยวต่างชาติพายเรือผ่านมาพบ ต้องช่วยกันเก็บเศษขยะที่ลอยเกลื่อน เนื่องจากบริเวณที่พบอยู่ใกล้กับปะการังและจุดที่สัตว์ทะเลอาศัยอยู่จำนวนมาก พร้อมวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและดำเนินการโดยด่วน

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยัง ผู้โพสต์ข้อมูลดังกล่าว โดยระบุว่าขยะที่ลอยอยู่ในทะเลบริเวณเกาะไหง มักถูกคนงานนำใส่เรือหางยาวมาทิ้งกลางทะเลอันดามัน ในช่วงเย็นของทุกวัน ซึ่งวันที่ผ่านไปพบมีจำนวนมากถึง 5 ถุงดำขนาดใหญ่ ประกอบกับบริเวณนั้นน้ำไหลนิ่ง ทำให้ขยะทั้งหมดมารวมอยู่จำนวนมาก จึงช่วยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเก็บขึ้นเรือไปทิ้ง แต่ถ้าเป็นช่วงที่น้ำไหลแรงคงพัดพาเศษขยะออกทะเล ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบกับสัตว์ทะเลและปะการังในพื้นที่

"ผมเป็นไกด์มักพายเรือแคนู เพื่อพา นักท่องเที่ยวไปเที่ยวบริเวณหน้าเกาะไหง แต่เมื่อเจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาสอบถามถึงที่มาของขยะจำนวนมากที่ลอยเกลื่อน ผมถึงกับอึ้ง รู้สึกอายและพูดอะไรไม่ออก จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ประกอบการบางรายที่แอบนำขยะมาทิ้ง" ผู้โพสต์ข้อมูลระบุ

ด้านนายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง กล่าวยอมรับว่า มีผู้ประกอบการรีสอร์ตบนเกาะไหงบางราย จากที่มีอยู่ทั้งหมด 20 ราย ได้ให้แรงงานชาวพม่านำขยะบรรทุกใส่เรือแล้วไปทิ้งกลางทะเล โดยใส่ถุงดำและใช้เชือกมัดก่อนนำก้อนหินมาถ่วงไว้ แต่บางถุงเชือกหลุด ทำให้ขยะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ประกอบกับช่วงนี้มีลมมรสุม จึงพัดพาขยะเหล่านี้เข้าสู่ชายฝั่งและส่งผลให้นักท่องเที่ยวพบเห็นดังกล่าว ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเร่งแก้ไข

ขณะที่นายกัณต์เกษม มีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ ซึ่งดูแลรับผิดชอบเกาะไหง กล่าวว่า หลังทราบเรื่องกรณีดังกล่าวได้แจ้งไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานที่เกาะไหงให้เร่งตรวจสอบ โดยจากการออกไปตรวจสอบไม่พบขยะลอยอยู่ และให้เจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรีสอร์ตที่อยู่บนเกาะ ให้ร่วมกันดูแลและไม่ทิ้งขยะหรือทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยกำชับเจ้าหน้าที่หากพบมีการทิ้งขยะก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที และให้จัด เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่ด้วย 

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่มาถึง ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปพักผ่อนและเยี่ยมชมความสวยงามที่หมู่เกาะสิมิลันและเกาะตาชัย จ.พังงา โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวจะมี นักท่องเที่ยวเดินทางไปทั้ง 2 เกาะ ไม่น้อยกว่า 4,800 คน โดยกระจายไปยังเกาะตาชัยประมาณ 2,400 คน และหมู่เกาะสิมิลัน 2,400 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากเกินกว่าพื้นที่จะรับได้ ผลที่ตามมาทำให้ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมบนเกาะแก่งต่างๆ เริ่มเสื่อมโทรมเสียหาย โดยเฉพาะที่เกาะตาชัย 

น.ส.สุปราณี ส่งบุญสุข นักท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เคยไปเที่ยวเกาะตาชัยเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้กลับมาเที่ยวอีกและต้องพบกับ การก่อสร้างอาคารร้านอาหารใหญ่โต จนเกาะตาชัย แทบไม่เหลือร่องรอยความงดงามของธรรมชาติ ดูไปคล้ายตลาดสด ที่น่าเศร้าสลดใจที่สุดเห็นจะได้แก่ร่องรอยการเผาทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยและจำนวนปูเสฉวน ซึ่งในอดีตเกาะตาชัยเป็นแหล่งที่มีปูเสฉวน ปูไก่ นกชาปีไหน รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิดและสัตว์ทะเลหายากจำนวนมาก โดยเฉพาะแหล่งน้ำจืดบริเวณหน้าชายหาด แต่ตอนนี้กับพบว่ามีจำนวน น้อยลงมาก จึงอยากให้มีการกำหนดจำนวน นักท่องเที่ยวที่เข้ามา เพื่อให้ธรรมชาติที่สวยงามยังคงอยู่ นอกจากนี้อยากให้ควบคุมเรื่องการก่อสร้างอาคารต่างๆ ด้วย

ด้านนายพงศ์ธีระ บัวเพ็ชร อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมวิทยา กล่าวว่า ในส่วนของปูเสฉวนบนเกาะตาชัย ปัจจุบันลดลงจำนวนมาก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก นักท่องเที่ยวเก็บเปลือกหอยจากชายหาด และมีการเผาทำลายเปลือกหอย ทำให้ปูเสฉวนไม่มีเปลือกหอย ดังนั้น ทุกฝ่ายควรหันมาให้ความสำคัญและร่วมกันดูแลระบบนิเวศ

ขณะที่นายอาทิตย์ ขยันกิจ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ อุทยานฯ อยู่ที่เกาะตาชัย ในแต่ละวันต้อง จัดเตรียมอาหารให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมารับประทานอาหารบนเกาะตาชัยไม่น้อยกว่า 500 คน โดยคิดค่าอาหารคนละ 250 บาท เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีอยู่จึงต้องคอยดูแลอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว จึงอยากให้กรมอุทยานฯ หาวิธีจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว  



ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  khaosod

รถตู้ชนเสา แดนเซอร์ดับ3 เจ็บคาซากอีก7 ตร.คาดหลับใน

 ชนสยอง รถตู้วงแดนเซอร์ สาวนักเต้นดับสลด 3 เจ็บอีก 7 หลังพุ่งชนเสาไฟเกาะกลางถนน จนรถหงายท้องล้อชี้ฟ้าพังยับเยินที่ลพบุรี คนขับ-หัวหน้าวงเผยพาทีมงาน น้องใหม่แดนซ์ รวม 10 ชีวิต ไปเต้นงานประจำปีที่วัดในจ.สระบุรี งานเลิกเก็บของ พากันกลับบ้านที่สิงห์บุรี จู่ๆ รถก็เสียหลัก ขึ้นไปชนเสา ทำให้น้องสาวกับน้องสะใภ้ เสียชีวิตไปด้วย ส่วนคนเจ็บทั้งหมดก็เป็นญาติๆ กัน ตร.คาดคนขับรถหลับใน แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย 




เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 3 เม.ย. ร.ต.ท.วินัย แสนบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ลพบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนเสาไฟฟ้าบนเกาะกลางถนนพหลโยธิน ขาเข้าตัวเมืองลพบุรี ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 145-146 หมู่ 2 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี แล้ว พลิกคว่ำทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. ณัชภูมิ วรรณวิไล ผกก.สภ.เมืองลพบุรี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ร.พ.พระนารายณ์มหาราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี

ที่เกิดเหตุกลางถนนพบรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์ฟ้า หมายเลขทะเบียน นข 3658 ลพบุรี กระจกหลังติดสติ๊กเกอร์ทีมงานน้องใหม่แดนซ์ สภาพชนป้ายจราจรและเสาไฟฟ้าเกาะกลางถนนขาด 2 ต้น หงายท้องล้อชี้ฟ้าหลังคารถชนอัดอยู่กับเสาไฟพังยับเยิน ใกล้กันพบศพผู้โดยสารเป็นหญิงสาววัยรุ่นนอนเสียชีวิตอยู่ 1 ราย ส่วนภายในรถพบศพหญิงสาวถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิต 2 คน นอกจากนั้นยังพบหญิงสาววัยรุ่นได้รับบาดเจ็บติดอยู่อีก 6 คน เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดถ่างนำ ผู้บาดเจ็บส่งร.พ.พระนารายณ์มหาราช โดยมีชายคนขับรถนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ริมถนน

จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ชิตตาภา พงษ์บุปผา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 1 ต.บางมัน อ.เมือง จ.สิงห์บุรี น.ส.รัชฎาพร อ่อนนิ่ม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/1 หมู่ 1 ต.บางมัน อ.เมืองสิงห์บุรี และน.ส.อรวิพา พุกปาน อายุ 16 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บมี น.ส.กนกวรรณ ลำไยย่อง น.ส.จรัญญา หลงพง น.ส.อมรรัตน์ เหลือชั่ง น.ส.สุชาดา อิ่มมิรันธ์ น.ส.นันทิดา พวงโต นายธรรมนูญ สุขเจริญ และด.ช.ธันวา อิ่มมิรันธ์ ทั้งหมดมีบ้านพักอยู่ หมู่ 1 ต.บางมัน อ.เมืองสิงห์บุรี

สอบสวนนายพงษ์ภกรณ์ มาระศรี อายุ 26 ปี คนขับรถที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ให้การว่า ตนเป็นหัวหน้าวงแดนเซอร์ ชื่อวงน้องใหม่แดนซ์ อยู่ที่จ.สิงห์บุรี รับงานเต้นแดนเซอร์ในเขตจังหวัดภาคกลาง ช่วง 2 คืนนี้พาคณะแดนเซอร์ 9 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นญาติๆ กันไปเต้นงานประจำปีแบบย้อนยุคที่วัดบ้านดอน ต.หัวลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย หลังจากเลิกงานช่วงประมาณเที่ยงคืนก็เก็บของขึ้นรถพาคณะกลับบ้านพักที่ จ.สิงห์บุรี โดยขับรถมาตามถนนพหลโยธินพอถึงจุดเกิดเหตุรถเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนน ชนป้ายบอกทางจราจรและเสาไฟฟ้าจากนั้นตนก็หมดสติไปจำอะไรไม่ได้อีกเลย มารู้สึกตัวอีกทีพบว่ารถตู้หงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่กลางถนนจนกระทั่งมีคนมาช่วยดึงออกจากซากรถ จากนั้นจึงเห็นว่าน้องสาว น้องสะใภ้ และเพื่อนของน้องสาวเสียชีวิต ส่วนคนอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า นายพงษ์ภกรณ์น่าจะเกิดอาการหลับในจนรถเสียหลักขึ้นไปชนเสาไฟฟ้าบนเกาะกลางถนน โดยช่วงบริเวณกลางรถด้านขวาฟาดกับเสาไฟฟ้าอย่างแรง ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหลังถูกแรงกระแทกกระเด็นออกมานอกรถและเสียชีวิต จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  khaosod


คลิประทึก!! จำไว้ เจองู"อนาคอนด้ายักษ์"ในบึง อย่าเอาไม้ไปแหย่เด็ดขาด

วันที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 13:50 น.  ข่าวสดออนไลน์



  คลิประทึก!! จำไว้ เจองู"อนาคอนด้ายักษ์"ในบึง อย่าเอาไม้ไปแหย่เด็ดขาด

  คลิป Anaconda Attack โพสต์โดย agolnar13 เผยแพร่มาหลายปีแล้ว แต่ช่วงนี้มีคนนำมาโพสต์ซ้ำจนเกิดการแชร์กันในโลกออนไลน์อีกครั้ง มาดูกันว่าเวลาเจองูอนาคอนด้ายักษ์นอนอยู่ในบึงน้ำ อย่าเอากิ่งไม่ไปแหย่เด็ดขาด!!!

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  khaosod
ขอบคุณ agolnar13 และ youtube.com    

หนุ่มซิ่งบิ๊กไบก์คันละล้าน ชนนศ.ปี 4

หนุ่มซิ่งบิ๊กไบก์คันละล้าน ชนนศ.ปี 4 พระจอมเกล้าพระนครเหนือ กำลังเดินข้ามถนน - ตายสยอง

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.ศราวุธ บุดดีคง พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ ชนคนข้ามถนนเสียชีวิต บนถนนรัชดาขาออกบริเวณเชิงสะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง




ที่เกิดเหตุบนถนนรัชดาขาออก ซึ่งเป็นถนน 4 เลน บริเวณเชิงทางขึ้นสะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง พบศพ นายกฤษณะ จันละมุด อายุ 23 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลที่ด้านหลังศีรษะเปิดเป็นแผลฉกรรจ์ สภาพนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 100 เมตร พบ จยย.ยี่ห้อบี เอ็ม ดับบลิว รุ่น เอส 1000 อาร์อาร์ สีขาว ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่เลนซ้ายสุดสภาพด้านหน้าพังยับเยิน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวทราบชื่อ นายชัชชัย แดงสอน อายุ 25 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น

จากการสอบสวน นายตฤน อายุ 24 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่าตนเองและผู้ตายได้มาดื่มกินกันที่ร้านลิซึ่ม ประชาชื่น ตั้งแต่ 21.00 น. จนกระทั่งร้านเลิกตนและผู้ตายกำลังจะเดินข้ามถนนจากหน้าร้านมาอีกฝั่ง เพื่อจะเรียกรถแท็กซี่กลับหอพักย่านวงศ์สว่าง พอข้ามมาถึงบริเวณเกาะกลางถนน ตนและผู้ตายกำลังจะเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งจากนั้นตนเองได้ยินเสียงเหมือนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ขับมาเร็วเสียงดังสนั่น ทำให้ตนเองหยุดชะงัก เมื่อหันมาพบว่ารถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์คันดังกล่าวก็มาถึงตัวแล้ว ตนเองตกใจกระโดดหลบมาอยู่บนเกาะกลางถนน ส่วนผู้ตายหลบไม่ทันถูกชนจนร่างกระเด็นก่อนจะร่วงลงมากระแทกพื้น สำหรับผู้ตายนั้นเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวอุตสาหการ ชั้นปีที่4  ซึ่งจะจบในเดือนมิถุนายนนี้  แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

ด้าน ร.ต.ท.ศราวุธ  กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กับผู้ขับขี่ไว้ก่อน แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอให้ผู้ขับขี่ที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น อาการดีขึ้นเสียก่อน หลังจากนั้นจะเรียกมาสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าส่วนรถจักรยานยนต์บี เอ็ม ดับบลิว รุ่น เอส 1000 อาร์อาร์ คันเกิดเหตุนั้นเป็นรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตขนาดใหญ่ ซึ่งมีราคาแพงสูงถึงคันละกว่า 1,000,000 บาท 

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  khaosod

จับสาวโหด! มือสังหารแม่ค้าร้านขายของชำชิงรถเก๋ง

จับสาวโหด! มือสังหารแม่ค้าร้านขายของชำชิงรถเก๋ง - คุมตัวไปทำแผนฯ ชาวบ้านรุมสาปแช่ง



คดีคนร้ายสังหารโหดฆ่าทุบหัว น.ส.อภิชญา หรือป้าแดง นพมาศ อายุ 60 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ในหมู่ 4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสียชีวิตอยู่บริเวณเตียงนอนภายในร้าน แล้วชิงทรัพย์สินและรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีแดง ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไป กระทั่งมีชาวบ้านไปพบเป็นศพขึ้นอืดเมื่อกลางดึกของวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง โดยการนำของ พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวล่าตัวคนร้าย จนสามารถติดตามจับกุม น.ส.ฤทัยรัตน์ หรือกี้ ผมอุด อายุ 28 ปี ชาว จ.อุดรธานี กับ นายวีรยุทธ หรือตุ้ม จงหาญ อายุ 28 ปี ชาว จ.ขอนแก่น 2 ผู้ต้องหาในคดีนี้ พร้อมของกลางรถเก๋ง ส่วน น.ส.สุภาพร หรือจอย สีทา อายุ 31 ปี แฟนสาวของนายวีรยุทธ และเป็นคนลงมือสังหาร น.ส.อภิชญา ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนีตามที่รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 เม.ษ.58 พ.ต.อ.ชัชชพล ภัทรศิริพร พงส.ผทค. พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวน ได้คุมตัว น.ส.สุภาพร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ หลังติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดใน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น เมื่อกลางดึกวันเดียวกัน ท่ามกลางชาวบ้านนับร้อยคนต่างพากันแห่มาดูโฉมหน้าฆาตกร พร้อมกับตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น บางคนถึงกับคุมอารมณ์ไม่อยู่วิ่งกรูจะมาทำร้าย น.ส.สุภาพร จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครต้องช่วยกันกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนนำตัวไปทำแผนฯตามขั้นตอนโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ

จากการสอบปากคำ น.ส.สุภาพร ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตั้งใจจะพากันไปขโมยทรัพย์สินภายในร้านเท่านั้น แต่บังเอิญ น.ส.อภิชญา หรือป้าแดง เจ้าของร้าน ตื่นขึ้นมาเห็นเหตุการณ์ และคว้าเอาค้อนตอกตะปูจะมาทำร้าย ตนจึงต่อสู้และแย่งค้อนมาได้ก่อนทุบเข้าที่ศีรษะจนสลบล้มลงบนเตียง จากนั้นจึงนำผ้าห่มมาปิดใบหน้าแล้วใช้ค้อนทุบซ้ำอีกหลายครั้ง จนแน่ใจว่าเหยื่อเสียชีวิตแล้ว เลยพากันหยิบฉวยทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง พร้อมกับขับรถเก๋งของผู้เสียชีวิตไปจำนำกับคนรู้จักก่อนพากันแยกย้ายหลบหนี จนมาถูกตำรวจจับกุมตัว และขอยืนยันว่าตนเป็นคนลงมือฆ่าคนเดียว ส่วน น.ส.ฤทัยรัตน์ หรือกี้ กับ นายวีรยุทธ หรือตุ้ม คอยดูต้นทางอยู่นอกร้าน

ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นจึงแจ้ง 2 ข้อหาหนักคือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ร่วมฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาหรือร่วมกันรับของโจร ก่อนคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  khaosod



วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

ชาวมหาสารคาม แห่ขอเลขเด็ด ต้นตะเคียนยักษ์ อายุกว่า 200 ปี


ฮือฮา! ชาวบ้านมหาสารคาม แห่ขอเลขเด็ด ต้นตะเคียนยักษ์ อายุกว่า 200 ปี หลัง จนท.กรมชลประทานขุดเจอระหว่างกำลังลอกทำฝายกั้นน้ำ ขณะชาวบ้านเผยใช้โทรศัพท์ถ่ายรูป กับเจอหญิงสูงอายุมีดอกไม้เหน็บหู เชื่อเจ้าแม่ตะเคียน ปรากฏตัวให้เห็น

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมชลประทานขุดลอกทำฝายกั้นน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยแอ่ง จ.มหาสารคาม เจอต้นตะเคียนขนาดใหญ่ อายุ 200 กว่าปี ขณะชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างหอบดอกไม้ธูปเทียนพร้อมแป้งเดินทางมาขอโชคลาภกันเป็นจำนวนมากที่บ้านนาแพง ตำบลน้ำห้วยแอ่ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม

โดยชาวบ้าน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานได้ขุดลอกเพื่อทำฝายกั้นน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรในหน้าแล้ง โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ขุดลอกบริเวณเหนือที่พบเจอต้นตะเคียน แต่บริเวณดังกล่าวเป็นโค้งน้ำ เมื่อถึงหน้าน้ำหลากเกรงว่าน้ำจะล้นฝาย จึงขุดถัดลงมาอีก 100 เมตร ระหว่างที่กำลังขุดอยู่นั้นรถแบ็กโฮก็เจอกับตอไม้ขนาดใหญ่ เมื่อตรวจสอบทราบว่าเป็นต้นตะเคียนยักษ์ เส้นรอบลำต้นกว้าง 3.50 เมตร ยาว 11 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเคลี่อนย้ายต้นไม้มาไว้ยังที่นาของ นางพนมพร หาโกสีย์ จากนั้นได้เคลี่อนย้ายเครื่องจักรเพื่อไปทำงานยังที่อื่น
ด้านนางพนมพร หาโกสีย์ เจ้าของที่นา กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ขุดต้นตะเคียนมาไว้ยังที่นาของต้น ได้เกิดฝันว่า มีหญิงชราเอาปลามาแจกชาวบ้านเป็นจำนวนมากอยู่ที่นาของตน ตนและชาวบ้านได้ออกมาดู จึงพบต้นตะเคียนดังกล่าว จากนั้นก็ได้อธิษฐานว่าถ้าเป็นเจ้าแม่ตะเคียนจริงขอพิสูจน์ด้วยการให้มาเห็นหน้า โดยได้เอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายที่ต้นตะเคียน เมื่อเอาโทรศัพท์มาดูถึงกับตกใจ กับพบรูปคล้ายผู้หญิงสูงอายุ ใส่เสื้อสีขาว มีดอกไม้เหน็บอยู่บริเวณหู จึงเรียกชาวบ้านมาดูแล้วทุกคนต่างก็เห็นเช่นเดียวกับตน

ต่อมา ได้จุดธูปไหว้เพื่อขอโชคลาภและปรากฏออกมาเป็นตัวเลข จากนั้นได้มีชาวบ้านกล่าวกันปากต่อปากแล้วเดินทางมาขอโชคลาภ บางคนนำแป้งมาถูต้นตะเคียนเพื่อหวังเลขเด็ด เนื่องจากใกล้วันหวยออก

อย่างไรก็ตาม บริเวณดังกล่าวชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่า เดิมทีเมื่อประมาณ 200-300 ปีที่แล้ว เป็นที่ตั้งของบ้านนาแพง และมีวัดอยู่ใกล้ๆ กับที่ขุดพบต้นตะเคียน จากนั้นได้เกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงย้ายขึ้นไปทางด้านเหนือเพื่อไปตั้งเป็นหมู่บ้าน จากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุเภทภัยทำให้มีคนล้มตายอีก ชาวบ้านจึงย้ายมาอยู่บริเวณที่อยู่ปัจจุบัน

ที่มา :www.thairath.co.th

จนท.เร่งสำรวจพื้นที่หลังเหตุแผ่นดินไหว

นายอำเภอแม่สะเรียง ประสานกำลังฝ่ายปกครอง เร่งออกสำรวจพื้นที่ หลังเหตุแผ่นดินไหว 3.6 ตามมาตราริกเตอร์

จากกรณีเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.6 ตามมาตราริกเตอร์ ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากบ้านแม่แพะหย่อมบ้านของ หมู่ 6 บ้านสล่าเชียงตอง ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ความลึก 4 กม. ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายศุภศิษฐ์ หล้ากอง นายอำเภอแม่สะเรียงได้ประสานสั่งการให้ นายไพบูลย์ ใจตูม ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอแม่สะเรียง ตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่เหตุแผ่นดินไหวในทันที เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย อย่างไรก็ตามนายเอกรินทร์ คงบุญลาภ กำนันตำบลเสาหิน พร้อมผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นเร่งออกสำรวจความเสียหายโดยละเอียดอีกรอบแล้ว ทั้งนี้การเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าวแรงสั่นสะเทือนทำให้ชาวบ้านสามารถรับรู้ได้.

ที่มา: www.dailynews.co.th

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

Automatic and Nest.

  • Last week as CES got under way, a slew of companies announced integration plans with Nest, the Google-owned company better known for its smart thermostat.





  • One of those companies is Automatic, the maker of a small adapter that scores your driving habits in an effort to help you save gas, and drive safer. Technically Automatic and Nest already played nicely with one another, but it required an additional service to do the legwork. By eliminating a middle man, the two devices can now talk directly to one another.


Natural Gas Transmission Training

  • If you’re a gas transmission professional, graduate engineering student, technician, or field worker—or if you work with the transmission industry in any capacity—you’ll find courses to meet your needs. Some courses can be combined to earn certification​. For details and registration options, click on each course title.
  • Onsite option. Any course can be brought to your facility or nearby, and we can customize courses and course modules.​





Institute for Energy and Environmental Engineering, Department of Process Engineering /

  • There is an intense collaboration between the EUT / WT with the IWW Water Centre in Mülheim an der Ruhr, associated institute at the University of Duisburg-Essen.
  • Special international recognition has the EUT / WT obtained in the field of membrane technology. This is, for example, the retention of dissolved organic and inorganic substances in water and colloidal and finely dispersed water contents, the combination of powdered activated carbon and membrane filtration, control of membrane integrity, membrane life and fouling effects, treatment costs and the study and modeling of the functioning of membranes (eg retention in nanofiltration, particle deposition in ultrafiltration, combined flocculation / ultrafiltration). New additions include work in which it is to optimize plant operation using neural networks.
  • In the field of swimming pool water treatment membrane systems were first used and further examination of the processes in activated carbon filters were performed.
  • The field of fixed bed adsorption processes and focuses on the modeling of the processes in activated carbon filters, the development of novel fixed bed adsorber with beds of so-called permeable synthetic panels (PSC) in combination with powdered activated carbon and the combination of membrane processes and powdered activated carbon. There were also carried out studies on the handling large adsorption of drugs to activated carbon.
  • There's also the behavior of drug residues and Endocrine in water treatment as a cross-cutting issue in focus.





Bolashak Oil and Gas Processing Plant, Atyrau Region, Kazakhstan

  • The Bolashak oil and gas processing plant, located 40km north-west of Atyrau in Kazakhstan, was launched in June 2013. The onshore processing plant, built as part of Kashagan project, will process oil and gas from the offshore Kashagan oil field in the North Caspian Sea.




  • The plant has the design capacity to process up to 450,000 barrels of oil and 8.8 million cubic metres of gas per day. The first oil production at the plant is expected by the end of 2013. The launch of the new processing plant is believed to have created more than 2,500 jobs.
  • The Kashagan field, located 80km south-east of Atyrau in the North Caspian Sea, is estimated to hold 35 billion barrels of oil. The field is being developed as part of the North Caspian Sea Production Sharing Agreement (NCSPSA) signed in 1997.







  • The NCSPSA consortium, comprised of seven partners, is responsible for the appraisal and development of 11 offshore blocks in the North Caspian Sea, which include the Kashagan, Kalamkas, Aktote and Kairan fields.
  • The operator under NCSPSA is the North Caspian Operating Company (NCOC). The equity interests of the seven consortium partners in the operating company are 16.1% each for KMG (KazMunayGas), Eni, ExxonMobil, Shell and Total, 8.40% for ConocoPhillips and 7.56% for INPEX.